Thursday, 16 May 2024
COVID Free Setting

โฆษกรัฐบาล เผย ทุกฝ่ายขานรับเปิดประเทศ  1 พ.ย. นี้ สธ. เตรียมรองรับ 5 ด้าน /กต. เปิดตัว Thailand Pass ขณะที่ “นายก”สั่งเข้มฝ่ายมั่นคงปราบการกระทำผิดทุกรูปแบบ ขอประชาชนเน้นชีวิต "วิถีใหม่" ธุรกิจยึดหลัก COVID Free Setting สร้างความมั่นใจคนไทย-นทท.

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศเดินหน้าเปิดประเทศแบบปลอดภัย (Smart Entry)โดยทยอยเปิดรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำว่า ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบตามข้อกำหนดแบบไม่กักตัวหรือจำกัดพื้นที่ เริ่ม 1 พฤศจิกายน นี้ ช่วยทำให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคัก โดยหอการค้าไทยคาดว่าจะมีเม็ดเงินกว่า 30,000 ล้านบาท หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากการเปิดรับนักท่องเที่ยว สนับสนุนให้ GDP ไทยปีนี้ เติบโต 1-1.5%  ด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลสร้างแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ Thailand Pass เพื่อขอรับเอกสารรับรองการเดินทางเข้าประเทศแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Thailand Pass QR code) เริ่ม 1 พฤศจิกายน นี้  ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ tp.consular.go.th ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนการอนุมัติที่ไม่จำเป็น ทำให้นักท่องเที่ยว/นักธุรกิจ ที่จะเดินทางมาเที่ยวหรือประกอบธุรกิจในไทยได้รับความสะดวกมากขึ้น
นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมการจัดทำแผนรองรับนโยบาย “เปิดประเทศใน 120 วัน” เตรียมแผนรองรับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ 

1.การเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค ตั้งแต่ขั้นตอนลงทะเบียนก่อนเดินทาง ขั้นตอนการตรวจสอบที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และการเดินทางจากท่าอากาศยานจนถึงโรงแรมในลักษณะปิด (Sealed Route) การตรวจหาการติดเชื้อในประเทศ เพื่อมั่นใจว่าผู้เดินทางเข้าประเทศผ่านกระบวนการและไม่มีการติดเชื้อ อีกทั้งมีความปลอดภัยเมื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย  

2.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ สำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้เดินทางเข้าในประเทศอย่างรวดเร็วแม่นยำ และการตรวจสายพันธุ์กลายพันธุ์ 

3.มาตรการ COVID Free Setting ในสถานประกอบการพื้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยว ประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus มีใบรับรองและ QR Code ที่ให้ประชาชนสแกนเพื่อตรวจสอบและประเมินร้องเรียนได้ มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจประเมินทุก 2 สัปดาห์ 

4.การแพทย์และสาธารณสุข โดยปรับรูปแบบการรักษาพยาบาลที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ให้สถานพยาบาลประเมินตนเอง พร้อมเข้าสู่การแพทย์วิถีใหม่ ป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล 

5.เวชภัณฑ์และการส่งกำลังบำรุง ขณะนี้มียาฟาวิพิราเวียร์ 26.2 ล้านเม็ด ยาเรมเดซิเวียร์ 74,284 ขวด และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ภาพรวมคงคลังประมาณ 3-6 เดือน และจัดหายาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติมต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกำชับให้หน่วยความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ลาดตระเวร เฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนแบบเข้มงวดสูงสุด เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ รวมทั้งจับกุมแรงงานข้ามชาติที่เดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมายด้วย ขณะเดียวกัน ก็เร่งกระจายและฉีดวัคซีนโควิด-19  ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายตามเกณท์ทุกจังหวัดเพื่อให้ภูมิคุ้มกันหมู่ภายในพื้นที่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top